Mind Map เป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถแตกความคิดออกมาเพื่อสร้างสรรค์งานต่างๆ
ผมได้อ่านเจอหนังสือเล่มหนึ่งของ Robin Landa ชื่อ Advertising by Design
เค้าได้พูดถึงวิธีการแตกความคิดสร้างสรรค์ออกมา
หนึ่งในวิธีการทั้งหมดก็คือ Mind Map
ประโยชน์ของ Mind Map ก็คือเอาไปทำออกแบบกระบวนความคิด หรือสร้างไอเดียต่างๆ ขึ้นมาใหม่
ทั้งนี้ในหนังสือเล่มนี้ได้แบ่งMind Map ออกเป็น สองแบบใหญ่ (จริงๆตรงนี้แล้วแต่คนจะแบ่ง บางที่อาจจะแบ่งไม่เหมือนกัน)
แบบที่1 Automatic Mapping
แบบนี้จะเน้นที่ความคิดสร้างสรรค์ ไม่มีกรอบ เน้นไอเดียที่เกิดขึ้นโดยฉับพลัน
ไม่จำเป็นต้องเชื่อมโยง แต่สามารถแตกรายละเอียดลงไปได้อีก
เช่น หากคิดอะไรได้ก็จับลากเข้าไปใน Mind Map ได้เลย
ความคิดต้องสด ยังไม่ถูกการกลั่นกรองใดทั้งสิ้น
แบบที่2 Deliberate Mapping
แบบที่สองนี้จะเน้นที่ความเชื่อโยงและเกี่ยวเนื่องกับมากกว่าแบบแรก
ยังคงความคิดสร้างสรรค์อยู่ และก็ให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงกับความคิดอื่นๆด้วย
แบบที่สองนี้อาจถูกกลั่นกรองความคิดคร่าวๆ เพื่อที่จะเชื่อมโยงความคิดต่างๆเข้าด้วยกัน
ทั้งหมดนี้คุณสามารถ คิดทบทวนในสิ่งที่คุณได้คิดลงไปใน Mind Map ได้
หรือหากมีข้อมูลมาเพิ่มใหม่ ก็สามารถนำลงไปเพิ่ม
หลังจากที่คุณได้สร้าง Mind Map ขึ้นมาแล้ว
คุณสามารถที่จะเชื่อมโยงความคิดของคุณ
และดูความสัมพันธ์ระหว่างความคิดได้อีกด้วย
หรือ คุณอาจจะจับเอาไอเดียย่อยขึ้นมาเป็นหัวข้อใหม่
หรือจัดเรียง Mind Map หรือ สร้างรูปแบบใหม่ในรูปแบบของคุณเอง
วิธีการสร้าง Mind Map
อันที่จริงแล้วมีพวก Software ที่หลายๆบริษัทขายอยู่
แต่ขึ้นอยู่กับคุณเองว่าอยากใช้แบบไหน
แต่ที่จะขอแนะำนี้เป็นการเขียน ในกระดาษ หรือกระดาน
หรืออะไรก็ได้ที่เขียนขึ้นมาเอง มันเป็นการกระตุ้นความคิดที่ดีกว่า
1. ให้เตรียมกระดาษ หรือ พื้นที่ว่างเปล่าในแนวตั้งหรือแนวนอนก็ได้ (แต่แนวนอนน่าจะดีกว่า)
ในขนาดที่กว้างพอที่คุณจะสามารถเขียนความคิดลงไปได้หมด อย่าเอาพวกกระดาษที่เล็กเกินไป
เพราะจะให้ความรู้สึกเหมือนถูกปิดความคิด
2. วาด จะวาดอะไรก็ได รูป หรือ เขียน หรือ ตั้งหัวข้อที่อยากจะสร้างความคิดนั้นขึ้นมา
โดยตั้งอยู่ตรงกลางกระดาษจะดีที่สุด และจุดนี้เองจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเขียน Mind Map
3. เริ่มแตกความคิดออกไปจากตรงกลางเป็นลูกศร หรือวาดเส้น ไปยังความคิดต่างๆ เพื่อสร้างความเชื่อมโยงและเกี่ยวเนื่อง ตรงจุดนี้เอง ระวังเรื่องความคิดสร้างสรรค์ อย่าตัดความคิดใหม่ๆนะครับ
ความคิดที่ใหม่ แม้ว่าบางครั้งมันจะดูแล้วไม่ค่อยฉลาด แต่ก็ให้เราจดมันลงไป เพราะว่ามันอาจจะมีประโยชน์ในภายหลัง
4. หลังจากนั้นก็ให้แตกความคิดออกไปเป็นความคิดย่อยๆต่างๆ จนเราคิดว่าพอใจแล้วก็คือจบกระบวนการครับ
Trick:
พยายามเขียน หรือวาดในสิ่งที่ได้คิดออกมาให้เร็วที่สุด ไม่ต้องกลั่นกรองให้ออกมาสดๆจากความคิดของเราเอง เวลาคิดก็ไม่จำเป็นต้องต่อเนื่องก็ได้ (nonlinear thinking) อาจจะคิดแบบนี้แต่ถ้าคิดออกเรื่องใหม่ก็ให้เราจดลงไป ไม่จำเป็นต้องยึดติดอยู่กับเรื่องเดิม
การคิด Mind Map แบบ Deliberate Mapping อาจจะเน้นที่ความต่อเนื่องมากกว่า และมีการกลั่นกรองที่มากกว่า ดังนั้นคุณอาจจะเขียนเหตุผลที่อธิบายความคิดๆ เหมือนเป็นการจด ย่อๆไว้ข้างๆได้ เพราะว่า การคิดแบบ Deliberately Mapping นั้นต่อเนื่องและละเอียดกว่า ในตอนสุดท้ายเราก็จะสามารถกลับมาดูเหตุผลที่เราคิดได้ โดยไม่ลืมครับ
ผมได้อ่านเจอหนังสือเล่มหนึ่งของ Robin Landa ชื่อ Advertising by Design
เค้าได้พูดถึงวิธีการแตกความคิดสร้างสรรค์ออกมา
หนึ่งในวิธีการทั้งหมดก็คือ Mind Map
ประโยชน์ของ Mind Map ก็คือเอาไปทำออกแบบกระบวนความคิด หรือสร้างไอเดียต่างๆ ขึ้นมาใหม่
ทั้งนี้ในหนังสือเล่มนี้ได้แบ่งMind Map ออกเป็น สองแบบใหญ่ (จริงๆตรงนี้แล้วแต่คนจะแบ่ง บางที่อาจจะแบ่งไม่เหมือนกัน)
แบบที่1 Automatic Mapping
แบบนี้จะเน้นที่ความคิดสร้างสรรค์ ไม่มีกรอบ เน้นไอเดียที่เกิดขึ้นโดยฉับพลัน
ไม่จำเป็นต้องเชื่อมโยง แต่สามารถแตกรายละเอียดลงไปได้อีก
เช่น หากคิดอะไรได้ก็จับลากเข้าไปใน Mind Map ได้เลย
ความคิดต้องสด ยังไม่ถูกการกลั่นกรองใดทั้งสิ้น
แบบที่2 Deliberate Mapping
แบบที่สองนี้จะเน้นที่ความเชื่อโยงและเกี่ยวเนื่องกับมากกว่าแบบแรก
ยังคงความคิดสร้างสรรค์อยู่ และก็ให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงกับความคิดอื่นๆด้วย
แบบที่สองนี้อาจถูกกลั่นกรองความคิดคร่าวๆ เพื่อที่จะเชื่อมโยงความคิดต่างๆเข้าด้วยกัน
ทั้งหมดนี้คุณสามารถ คิดทบทวนในสิ่งที่คุณได้คิดลงไปใน Mind Map ได้
หรือหากมีข้อมูลมาเพิ่มใหม่ ก็สามารถนำลงไปเพิ่ม
หลังจากที่คุณได้สร้าง Mind Map ขึ้นมาแล้ว
คุณสามารถที่จะเชื่อมโยงความคิดของคุณ
และดูความสัมพันธ์ระหว่างความคิดได้อีกด้วย
หรือ คุณอาจจะจับเอาไอเดียย่อยขึ้นมาเป็นหัวข้อใหม่
หรือจัดเรียง Mind Map หรือ สร้างรูปแบบใหม่ในรูปแบบของคุณเอง
วิธีการสร้าง Mind Map
อันที่จริงแล้วมีพวก Software ที่หลายๆบริษัทขายอยู่
แต่ขึ้นอยู่กับคุณเองว่าอยากใช้แบบไหน
แต่ที่จะขอแนะำนี้เป็นการเขียน ในกระดาษ หรือกระดาน
หรืออะไรก็ได้ที่เขียนขึ้นมาเอง มันเป็นการกระตุ้นความคิดที่ดีกว่า
1. ให้เตรียมกระดาษ หรือ พื้นที่ว่างเปล่าในแนวตั้งหรือแนวนอนก็ได้ (แต่แนวนอนน่าจะดีกว่า)
ในขนาดที่กว้างพอที่คุณจะสามารถเขียนความคิดลงไปได้หมด อย่าเอาพวกกระดาษที่เล็กเกินไป
เพราะจะให้ความรู้สึกเหมือนถูกปิดความคิด
2. วาด จะวาดอะไรก็ได รูป หรือ เขียน หรือ ตั้งหัวข้อที่อยากจะสร้างความคิดนั้นขึ้นมา
โดยตั้งอยู่ตรงกลางกระดาษจะดีที่สุด และจุดนี้เองจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเขียน Mind Map
3. เริ่มแตกความคิดออกไปจากตรงกลางเป็นลูกศร หรือวาดเส้น ไปยังความคิดต่างๆ เพื่อสร้างความเชื่อมโยงและเกี่ยวเนื่อง ตรงจุดนี้เอง ระวังเรื่องความคิดสร้างสรรค์ อย่าตัดความคิดใหม่ๆนะครับ
ความคิดที่ใหม่ แม้ว่าบางครั้งมันจะดูแล้วไม่ค่อยฉลาด แต่ก็ให้เราจดมันลงไป เพราะว่ามันอาจจะมีประโยชน์ในภายหลัง
4. หลังจากนั้นก็ให้แตกความคิดออกไปเป็นความคิดย่อยๆต่างๆ จนเราคิดว่าพอใจแล้วก็คือจบกระบวนการครับ
Trick:
พยายามเขียน หรือวาดในสิ่งที่ได้คิดออกมาให้เร็วที่สุด ไม่ต้องกลั่นกรองให้ออกมาสดๆจากความคิดของเราเอง เวลาคิดก็ไม่จำเป็นต้องต่อเนื่องก็ได้ (nonlinear thinking) อาจจะคิดแบบนี้แต่ถ้าคิดออกเรื่องใหม่ก็ให้เราจดลงไป ไม่จำเป็นต้องยึดติดอยู่กับเรื่องเดิม
การคิด Mind Map แบบ Deliberate Mapping อาจจะเน้นที่ความต่อเนื่องมากกว่า และมีการกลั่นกรองที่มากกว่า ดังนั้นคุณอาจจะเขียนเหตุผลที่อธิบายความคิดๆ เหมือนเป็นการจด ย่อๆไว้ข้างๆได้ เพราะว่า การคิดแบบ Deliberately Mapping นั้นต่อเนื่องและละเอียดกว่า ในตอนสุดท้ายเราก็จะสามารถกลับมาดูเหตุผลที่เราคิดได้ โดยไม่ลืมครับ
0 comments:
Post a Comment